มาทำ LOGO ใส่ให้ช่องรายการทีวีของเรากันเถอะ

โปรแกรม VLC มีฟังก์ชั่นที่สามารถ Add LOGO, Erase LOGO และ Add Text ได้
คราวนี้จะมานำเสนอการใช้งานฟังก์ชั่นดังกล่าว เพื่อจะสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับองค์กร ได้
อย่างเช่นการนำเสนอวิดีโอของตัวเอง แล้วยังสามารถเพิ่มโลโก้ได้ ลบโลโก้เดิมของเก่าออกได้ และยังสามารถใส่ตัวหนังสือ เพื่อสื่อสารกับลูกค้าได้
การนำเสนอนี้ ไม่ได้เป็นการแนะนำให้ทำการละเมิดลิขสิธิ์แต่อย่างใด เป็นเพียงเพื่อการศึกษาเท่านั้น
เชิญทัศนา ครับ

1. โปรแกรม VLC ดาวน์โหลดลงเครื่องให้เรียบร้อย

2. ที่ Tools Bar เลือก Tools>Effects and Filters

3. เลือก Tab Video Effects

4. Check box Add text แล้วใส่ข้อความที่เราต้องการใส่ แล้วเลือกตำแหน่งของตัวหนังสือที่จะให้ปรากฏที่หน้าจอ

5. เราก็จะได้ ตัวหนังสือปรากฏที่หน้าจอ ตามที่เราพิมพ์ไว้

6. ที่มุมขวามือด้านบน ส่วนมากจะเป็นโลโก้ของเดิม เราจะ Check box Logo Erase แล้วเลือกไฟล์ภาพที่เราจะนำมาปิดทับโลโก้เดิม แล้วเลือกตำแหน่งเป็นแบบแกน X-Y ได้ตามใจชอบ หรือแล้วแต่ตำแหน่งของอะไรก็ตามที่เราไม่อยากให้ปรากฏที่หน้าจอ

7. เมื่อกำหนดตำแหน่งที่จะลบโลโก้เดิมแล้ว ดูผลกันเลย โลโก้เดิมถูกปิดทับด้วยรูปภาพที่เรานำมาปิด

8. หากเราต้องการที่จะ Add LOGO ของเราเขาไปแทนที่เดิม หรือจะวางไว้ตำแหน่งอื่น เราสามารถทำได้โดย Check Box Add LOGO แล้วเลือกไฟล์โลโก้ที่เราต้องการให้ปรากฏที่หน้าจอ เลือกตำแหน่งตามใจชอบ

9. เป็นอันเรียบร้อยครับ ลบ เพิ่ม เติมตัวหนังสือ

VLC เป็นโปรแกรมที่ใช้งานได้มากกว่าที่คุณคิด เอาไปต่อยอดได้
VLC ใช้เปิด Video Streaming ได้ Record จาก Streaming ได้ และอีกหลายๆอย่าง

ขอให้มีความสุข ความสนุกสนานในการใช้งานะครับ

ขอบคุณที่ติดตาม
ไพศาล พันธัญกิจ

BISS ระบบเข้ารหัสสัญญาณเพื่อป้องการการรับชมรายการทีวี

          การถ่ายทอดสัญญาณภาพและเสียง หรือที่เราอาจจะเคยได้ยินเป็นภาษาอังกฤษจนคุ้นหูว่า Video Broadcasting บ้านเรามีอยู่ 3 ช่องทางใหญ่ๆที่ใช้งานกันเป็นหลัก การแพร่ภาพและกระจายเสียงด้วยดาวเทียม (DVB-S or S2) การแพร่ภาพและกระจายเสียงด้วยสายอากาศหรือที่เราเรียกมันว่า TV Digital (DVB-T2) และการแพร่ภาพและกระจายเสียงด้วยสายนำสัญญาณ หรือที่เราเรียกมันว่า Cable TV (DVB-C or C2)
          จาก 3 ช่องทางการแพร่ภาพและกระจายเสียงที่บอกไปข้างต้น ล้วนแล้วแต่เป็นระบบดิจิตอลทั้งสิ้น ซึ่งข้อดีนั้นก็มีอยู่มาก ทั้งความคมชัด และการใช้งานช่องสัญญาณดาวเทียมได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ใน Blog นี้ ขอกล่าวถึงการแพร่ภาพกระจายเสียงโดยใช้ดาวเทียมก่อนนะครับ ซึ่งจะเป็นการเชื่อมโยงไปยังระบบที่ใช้ป้องกันการเข้าถึง หรือระบบที่ใช้ในการจำกัดลูกค้าที่จะรับชมรายการต่างๆ
          Encryption Systems(Conditioning Access Systems: CA) ที่ใช้งานของเจ้าของเคเบิ้ลทีวีรายใหญ่ของบ้านเรา ขอยกตัวอย่างดังนี้
          1. Truevisons            Irdeto2, Irdeto3
          2. CTH                      Irdeto3, Verimatrix
          3. GMMZ                 Tsinghua-Tongfang
          4. RS SUNBOX        ABV
          5. PSI                        Neotion
          6. DTV                      Irdeto2        

          รายการที่แสดงด้านบนเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเจ้าของกล่องแต่ละรายที่เลือกใช้ โดยที่แต่ละรายส่วนใหญ่ก็จะไม่เลือกที่จะใช้ CA ตัวเดียวกัน เนื่องด้วยทั้งเหตุผลทางด้านความปลอดภัยและเรื่องของการค้า และถึงแม้ว่าเจ้าของกล่องแต่ละรายจะใช้ CA คนละตัวกันแล้ว การทำงานพื้นฐานของทุกเครื่องจะสามารถถอด Encryption systems ที่เป็น BISS Mode-1 ได้
          ผมขอยกตัวอย่างช่องรายการที่เข้ารหัสเพื่อจำกัดการเข้าชมแบบ BISS ก็คือทุกช่องของ TV Digital ที่รับจากดาวเทียม และอีกหลายๆช่องที่อยู่บนแพลทฟอร์มดาวเทียมไทยคม C-Band  การเข้ารหัสดังกล่าว ทำให้เครื่องรับดาวเทียมรุ่นเก่าที่ไม่มีระบบถอดรหัส BISS ก็ไม่สามารถใช้งานได้และกลายเป็นเครื่องรับสัญญาณดาวเทียมที่หมดประโยชน์ไปในที่สุด และก็มีผลกระทบกับชาวบ้านที่ใช้เครื่องแบบเก่า ต้องซื้อเครื่องรับดาวเทียมกันใหม่
          ทีนี้เรามาดูถึง BISS กันเลยดีกว่า ฺBISS เป็นคำย่อของ Basic Inter-operable Scrambling Systems โดยที่การเข้ารหัสแบบ BISS นี้ก็ยังแบ่งเป็น Mode ต่างๆ ดังนี้
          MODE-1                    เป็นการเข้ารหัสด้วยชุดเลขฐาน 16 จำนวน 12 ตัว (48 Bit)
          MODE-E                    เป็นการเข้ารหัสด้วยชุดเลขฐาน 16 จำนวน 14 ตัว (56 Bit)
โดย MODE-E ยังแบ่งเป็นอีก 2 แบบ คือ INJECTED-ID และ BURIED-ID โดยจะขอกล่าวถึงในโอกาสต่อไปนะครับ...

GPS Tracker ติดตามรถยนต์ จักรยานยนต์ ที่คุณสุดจะแสนรักแสนหวง!!!

           ระบบติดตามยานพาหนะที่สามารถแสดงตำแหน่งของยานพาหนะนั้น อาจจะเป็นการติดตั้งในรถยนต์ส่วนตัว เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉินเช่น การถูกโจรกรรม หรือติดตั้งในรถยนต์ของบริษัท ห้าง ร้าน ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการขนส่ง เพื่อใช้ในการตรวจสอบเส้นทางการใช้งานของรถยนต์ หรือเพื่อเป็นการวางผนการใช้เส้นทาง เพื่อให้ประหยัดเชื้อเพลิง เป็นต้น
     อุปกรณ์สำคัญที่นำมาใช้งานเพื่อให้สามารถที่จะบอกตำแหน่งของยานพาหนะได้คือ GPS (Global Positioning System) คือระบบบอกตำแหน่งบนพื้นผิวโลก โดยอาศัยการคำนวณจากความถี่สัญญาณนาฬิกาที่ส่งมาจากดาวเทียมที่โคจรอยู่รอบโลกซึ่งทราบตำแหน่ง ทำให้ระบบนี้สามารถบอกตำแหน่ง ณ จุดที่สามารถรับสัญญาณได้ทั่วโลก
     Navigation GPS ที่ใช้งานและติดตั้งอยู่ในรถยนต์ส่วนใหญ่จะเป็น GPS ชนิดนำทางเพื่อพาไปสู่จุดมุ่งหมายปลายทาง ดังแสดงในรูป

          หลักการทำงานของ GPS ก็คือ รับสัญญาณจากดาวเทียม GPS ซึ่งเป็นดาวเทียมวงโคจรต่ำ ใช้งานเพื่อเป็นดาวเทียมบอกตำแหน่งโดยเฉพาะ โดยรอบโลกจะมีอยู่ทั้งหมดประมาณ 24-26 ดวง ในการรับสัญญาณ GPS นั้น เครื่องรับสัญญาณดาวเทียม GPS จะต้องรับสัญญาณดาวเทียมให้ได้อย่างน้อย 3-4 ดวง ซึ่งจะได้ผลการคำนวนตำแหน่งและแสดงผลให้เราเห็นอย่างค่อนข้างจะแม่นยำ ซึ่งถ้ารับสัญญาณดาวเทียมได้จำนวนมากดวง นั่นก็หมายความว่า เครื่องรับ GPS นั้น จะสามารถแสดงผลได้อย่างแม่นยำมาก มีความผิดพลาดหรือคลาดเคลื่อนน้อย

    GPS Tracker คือกระประยุกต์ใช้งาน GPS ที่ใช้ในการนำทางข้างต้น มาเป็นการส่งข้อมูลดังกล่าวไปสู่ผู้ใช้งาน ซึ่งอาจจะเป็นรูปแบบการส่งข้อมูลโดยแจ้งพิกัดเป็นรูปแบบ SMS หรือส่งข้อมูลดังกล่าวเข้าสู่ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อให้แสดงผลและเก็บไว้ในฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ 

    ตัวอย่างการส่งข้อมูลจาก GPS Tracker โดย SMS

    

ตัวอย่างการแสดงผลที่ Computer 

อีกทั้งยังสามารถดูเส้นทางในการใช้งานย้อนหลังได้อย่างแม่นยำอีกด้วย ดังแสดงในรูป 

            จากความสามารถเบื้องต้นของ GPS Tracker ที่กล่าวมานั้น หากจะสามารถใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเป็นการนำไปใช้งานติดตั้งในรถยนต์เพื่อติดตามรถยนต์หากเกิดการโจรกรรมได้ แต่อย่างไรแล้วระบบติดตามดังกล่าว จะต้องใช้งานควบคู่ไปกับระบบโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายของการส่ง SMS และ Internet Package ของผู้ให้บริการโครงข่ายนั้นๆ ซึ่งถ้าเราคำนึงถึงความเสียหายอันอาจจะเกิดขึ้นได้ กับค่าใช้จ่ายรายเดือนของซิมการ์ดแบบเติมเงินที่ประมาณ 50 บาทสำหรับการส่ง SMS และ Internet ถือว่าไม่มากเลยสำหรับการที่จะติดตั้งอุปกรณ์นี้ในรถยนต์ที่คุณรักและหวงแหน

ตัวอย่างของ GPS Tracker

         

VLC Streamer Helper "VLC Streaming to iPhone and iPad"

          VLC ผมว่าเป็นโปรแกรมที่ดาวน์โหลดได้ฟรีสำหรับทุกๆระบบปฏิบัติการ และความสามารถของมันยังมีมากมายอย่างเช่น เล่นไฟล์ที่นามสกุลแปลกๆกว่าปกติได้ อาจจะมองได้ว่า VLC คือโปรแกรมคู่ใจของนักดูหนังอีกด้วย
          VLC นอกจากจะใช่เล่นไฟล์วิดีโอแล้ว ยังสามารถที่จะทำเป็น Streaming Server, VOD Server ได้อีกด้วย ซึ่งหลายๆท่านน่าจะเคยได้ลองใช้งานกันมาบ้างแล้ว ถึงแม้ว่าการใช้งานอาจจะยุ่งยากอยู่สักหน่อย แต่ก็ใช้ได้ดีในระดับหนึ่งทีเดียว
          แต่การที่จะ Streaming ให้กับทุก OS คงเป็นไปได้ค่อนข้างลำบาก แต่วันนี้ ผมจะเล่าให้ท่านได้อ่านและอาจจะได้ลองปฏิบัติกันครับ เริ่มกันเลย!
          เริ่มต้นที่ฝั่งของ Server ต้องไปดาวน์โหลดโปรแกรมนี้ครับ VLC Streamer โดยสามารถดาวน์โหลดได้จากที่นี่ครับ VLC Streamer
          เมื่อดาวน์โหลดมาแล้ว ก็ลงมือติดตั้งกันเลยครับ เมื่อติดตั้งเสร็จ ให้เรียกใช้งานโปรแกรมกันเลย

         หน้าตาของโปรแกรมก็จะเป็นอย่างที่เห็นด้านบนนะครับ วิธีใช้งานก็ง่ายมากครับ เลือกไฟล์ Video ที่ต้องการวางวงที่หน้าโปรแกรมเลย หรือใครจะกดที่ปุ่ม Add Movies หรือ Add DVD ก็ตามสะดวกครับ
ที่มมุมบนด้านขวามือของเรา จะเห็นว่ามีค่าคุณภาพของสัญญาณภาพที่จะ Streaming ครับ เราสามารถเลือกได้ว่าเราจะให้คุณภาพมันออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งเมื่อเราเลือกคุณภาพของสัญญาณขาออกแล้ว เมื่อเราเพิ่มไฟล์ Video เข้ามา โปรแกรมจะทำการ Transcode เพื่อให้ได้คุณภาพของภาพตามที่เราได้ตั้งค่าเอาไว้

          ผมลองเลือกไฟล์ Video ที่จะให้โปรแกรมได้ Streaming ออกไป ขณะที่เราเลือกไฟล์นั้น โปรแกรมก็จะทำการ transcode ไฟล์ที่เป็นชนิดต่างๆกัน ให้เป็นแบบที่เราตั้งค่าเอาไว้ ในรูปด้านบน ผมได้ลองเลือกไฟล์ Video ที่เป็น m4v โดยรอให้กระบวนการดังกล่าวเสร็จสิ้น มันจะขึ้นข้อความ "COMPLETE"

         ในส่วนของ Computer ฝั่ง Server ก็เรียบร้อยแล้วครับ เราไปลุยที่ iPhone กันต่อเลยครับ  

ก่อนอื่นเข้า APP Store และหาโปรแกรม VLC Streamer Free 

          จากนั้นทำการติดตั้งที่ iPhone เลยครับ เมื่อติดตั้งเสร็จ ก็เรียกโปรแกรมขึ้นมาใช้งานกันเลย

          เมื่อเปิดโปรแกรมขึ้นมาแล้ว อย่างแรกที่เราต้องทำคือ ทำการเพิ่ม Server Streamer แบบ Manual ดังนี้ครับ เลือกที่ Setting แล้ว Add Computer Manually 

จากนั้นก็ใส่ IP ของ Computer ที่เราติดตั้งใว้ให้เป็น Streamer Server  และตั้งชื่อได้ตามใจชอบครับ

          เมื่อเราเพิ่ม Computer แล้ว เราจะเห็นไฟล์ที่เราใส่ไว้ที่คอมพิวเตอร์ตามรูปด้านล่างครับ

          เมื่อกระบวนการทุกอย่างเรียบร้อย เราก็เลือกไฟล์ที่เราจะให้โปรแกรมเล่นได้เลยครับ

          เพียงเท่านี้ เราก็จะได้สนุกกับการรับชมภาพยนต์หรือไฟล์ Video อื่นๆที่เราอยากจะเอามาชมที่ iPhone หรือ iPad ของเราได้แล้ว คุณภาพความคมชัด ก็อยู่ที่เราตั้งค่าครับ 

          อีกอย่าง เนื่องจากโปรแกรมที่ดาวน์โหลดจาก APP Store เป็นโปรแกรมตัวฟรี ซึ่งอาจจะทำให้มีโฆษณาติดมาอยู่บ้าง แต่ผมว่าคงไม่เป็นปัญหาในการรับชมมากนักครับ ใครอยากจะดาวน์โหลดตัวเต็มแบบไม่มีโฆษณามาใช้ก็ได้นะครับ แล้วแต่กำลังทรัพย์ 

ขอให้มีความสุขกับการรับชมวิดีโอบนมือถือของท่านนะครับ Blog นี้ไม่ได้ส่งเสริมให้มีการละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญาแต่อย่างใด โปรดใช้วิจารณญาณในการชมละกันนะคร้าบบบบบบ

กว่าจะได้ Constellation Diagram

           ในการวัดสัญญาณดาวเทียม หลายครั้งที่สงสัยว่า รูปที่ได้จากการวัดสัญญาณนั้นมันมีความเป็นมาอย่างไร จึงได้หาข้อมูลและนำมาเสนอให้ทราบถึงที่มาที่ไป
           รูปสัญญาณที่แสดงออกมาด้วย Constellation Diagram สามารถบอกเราได้ว่า วิธีการ Modulate ของ ทรานสปอนเดอร์ดาวเทียมนั้นๆ เป็นแบบไหน ค่าที่อ่านได้จากเครื่องมือวัดนั้นจะบ่งบอกถึงประสิทธิภาพของเครื่องส่งและ Modulator

          จากรูปด้านบน แสดง Constellation Diagram ของ 4QAM โดยที่จุดสี แดง นั้นคืดจุดที่ประสิทธิภาพของสัญญาณดีที่สุด ส่วนจุดสีน้ำเงินรอบๆจุดคือ ค่าที่วัดออกมาได้ ยิ่งจุดสีน้ำเงินออกไกลจากจุดสีแดงมาเท่าไร นั่นแสดงว่าการ Modulate เกิดความผิดพลาดมากขึ้น

          รูปด้านบนเป็น Constellation Diagram ในทางอุดมคติของ การ Modulate แบบ 4QAM

การ Modulate แบบ 4 QAM นั้น เราสามารถจะบอกว่ารายละเอียดของข้อมูลเป็นอย่างไรได้ดังนี้

- สิ่งที่เราได้จากข้อมูลการ Modulate คือ เลข 4 แทนจำนวน Symbol 

- QAM คือ Quadrature Amplitude Modulation

- จำนวน Bit/Symbol คำนวนหาได้จากสูตร 

         2^n = จำนวน Symbol

         2^n = 4

         จะได้ n = 2

 เพราะฉะนั้น เราจะได้จำนวนบิทต่อ 1 Symbol คือ  2 บิท

การ Plot จุดในแต่ละ Quadrant นั้น จะเป็นไปตามกฏข้อนี้คือ Quadrature = Cosine + Sine

COS (มุม) SIN(มุม) Symbol DEC First Bit Last Bit 1 0 0 0 2 1 0 1 3 2 1 0 4 3 1 1

จากตารางด้านบน เรากำหนดให้ 

Symbol ที่ 1 แทนด้วยเลข 0 ในเลขฐาน 10 

Symbol ที่ 2 แทนด้วยเลข 1 ในเลขฐาน 10

Symbol ที่ 3 แทนด้วยเลข 2 ในเลขฐาน 10

Symbol ที่ 4 แทนด้วยเลข 3 ในเลขฐาน 10

จากนั้นทำการแปลงเลขฐานจาก ฐาน 10 เป็นฐาน 2 ซึ่งจะได้ดังนี้

เลข 0 ในเลขฐาน 10 แปลงเป็นเลขฐาน 2 จะได้ 00

เลข 1 ในเลขฐาน 10 แปลงเป็นเลขฐาน 2 จะได้ 01

เลข 2 ในเลขฐาน 10 แปลงเป็นเลขฐาน 2 จะได้ 10

เลข 3 ในเลขฐาน 10 แปลงเป็นเลขฐาน 2 จะได้ 11

เราจะกำหนดให้บิททั้งสองของเลขฐาน 2 เป็นบิทที่แทน Function Cosine และ Function Sine ตามลำดับ โดยที่การ Plot จุดของแต่ละ Quadrant จะเป็นผลรวมของ Amplitude สูงสุดของ Function นั้นๆ

First Bit ที่เป็น 0 เราแทนค่าด้วย Function Cosine

First Bit ที่เป็น 1 เราแทนค่าด้วย Function (-)Cosine

Last Bit ที่เป็น 0 เราแทนค่าด้วย Function sine

Last Bit ที่เป็น 1 เราแทนค่าด้วย Function (-)sine

เมื่อเราได้ตัวแปรหลายๆตัวแล้ว เราจะนำตัวแปรต่างๆ มาแทนในสูตรเพื่อหาค่า โดยเริ่มต้นจาก การหารูปคลื่นของ Function Cosine และ (-)Cosine

รูปด้านบน ได้มาจากการแทนค่าของมุมเข้าไปใน 

Function Cos เช่น Cos(0) = 1, Cos(90) = 0

Function -Cos เช่น -Cos(0) = -1, -Cos(90) = 0

Function Sin เช่น Sin(0) = 0, Sin(90) = 1

Function -Sin เช่น -Sin(0) = 0, -Sin(90) = -1

เราจะได้รูปกราฟที่ได้จากการแทนค่าในสูตรเป็นกราฟต้นแบบที่จะนำมาติดในกระบวนการต่อไป

การคิดที่ Quadrant แรก Symbol ที่ 1, 00 จะเป็นการนำกราฟของ 2 Function มารวมกันดังรูปต่อไปนี้

เมื่อนำกราฟทั้ง 2 Function มารวมกัน เราจะได้กราฟเส้นใหม่ขึ้นมา 1 กราฟ กราฟที่เราได้ใหม่นี่แหละ จะนำไป Plot ที่ Constellation Diagram เราไปดูกันต่อที่ 

DEC = 1, 01

DEC = 2, 10

DEC = 3, 11

นำกราฟผลรวมของแต่ละ Function มา Plot ใหม่ จะได้รูปใหม่ดังนี้

จากรูปผลรวมของกราฟ เราจะได้ค่ากราฟที่มี Amplitude สูงสุดจำนวน 4 จุด คือที่มุม 45, 135, 225 และ 325 

เมื่อนำค่า Max Amplitude ที่ได้ไป Plot ลงในแกน IQ ตามแผนผังของ Constellation Diagram เราก็จะได้จุดทั้ง 4 จุด บน Constellation Diagram โดยที่แต่ละจุดคือ จุด Maximum ของ Signal Amplitude นั้นเอง

NS3 "New Technology of Modulator"

NovelSat 3G-Sat
NS3 ™ คือเทคโนโลยีที่เพิ่มแบนด์วิดธ์และเพิ่มขนาดของการส่งข้อมูลที่มากกว่า DVB-S2 ถึง 78%
บริษัท NovelSat ได้คิดค้นการเพิ่มประสิทธิภาพของแบนด์วิดท์ดาวเทียม โดยให้ชื่อเทคโนโลยีที่คิดค้นขึ้นมาใหม่และจะเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกนี้ว่า NS3 ™ โดยเทคโนโลยีดังกล่าวจะเพิ่มแบนด์วิดท์ดาวเทียมที่มากกว่า DVB-S2 20% และ DVB-S 55% กล่าวได้อีกนัยหนึ่งว่า ถ้าเทียบกับมาตรฐานปัจจุบันที่ 1 TP 36 MHz จะเพิ่มข้อมูลในการส่งได้มากกว่าถึง 78% และที่ 1 TP 72 MHz จะสามารถส่งข้อมูลที่อัตราการส่งข้อมูลสูงสุดถึง 358Mbps